เดี๋ยวนี้เห็นมีเผยแพร่กันแปลกๆ ชอบกล เพราะไม่เคยได้ยินในสมัยหลวงปู่ ที่ว่าหลวงปู่ดู่สอนได้แค่พรหม ท่านไม่สอนถึงนิพพาน รวมทั้งสอนให้ศิษย์ตั้งเป้าไปเกิดที่ชั้นพรหม ??
การเผยแพร่เช่นนี้ถือเป็นการปรามาสหลวงปู่ เพราะขนาดพระที่ไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ ก็ยังสามารถจดจำพุทธวจนะเอาไปสอนคนอื่นให้บรรลุถึงนิพพานได้เลย เช่นอย่างพระตุจโฉโปฏฐิละในครั้งพุทธกาล ดังนั้น เรื่องที่หลวงปู่ดู่จะสอนถึงนิพพาน จึงมิใช่เรื่องเหลือวิสัยแต่อย่างใด
ลุงสิทธิ์ไปกราบหลวงปู่มาหลายปี ก็ได้ยินแต่ท่านให้มุ่งพ้นทุกข์ มุ่งนิพพาน อย่างน้อยก็ตั้งเป้าให้ได้ ๑ ใน ๔ คือพระโสดาบัน เพื่อว่าจะเป็นหลักประกันว่าจะไม่ตกนรก และประกันว่าจะบรรลุถึงนิพพานไม่เกิน ๗ ชาติ ไม่เคยสักครั้งเดียวที่ได้ยินท่านให้ศิษย์ตั้งความปรารถนาไปเกิดชั้นพรหม
ผู้ที่ตั้งความปรารถนาไปเกิดชั้นพรหมนั้น มีมาก่อนพระพุทธศาสนาแล้ว จนเมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น จึงทรงสอนให้รู้ว่าพรหมมิใช่คติที่ควรเป็นเป้าหมาย เพราะเป็นความเนิ่นช้า หากรูปพรหมและอรูปพรหมเป็นของวิเศษ พระพุทธเจ้าจะละจากอาจารย์ท่านที่เชี่ยวชาญการเข้ารูปฌานและอรูปฌาน ออกมาแสวงโมกขธรรมทำไมเล่า
หลวงปู่ดู่ท่านบอกกับหลวงตาพวง พระอาวุโส ที่วัดสะแกว่า “ตั้งแต่ผมบวชมา สิ่งเดียวที่ผมปรารถนา คือ พระนิพพาน” แล้วท่านก็สอนพวกเราให้ยินดีในพระนิพพาน ยินดีในการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์
จึงไม่ทราบว่าผู้เผยแพร่ไปได้ยินหลวงปู่สอนเช่นนั้นมาด้วยตนเองหรือได้ยินได้ฟังจากใครมา สำหรับลุงสิทธิ์ เรื่องเป้าหมาย ๑ ใน ๔ นั้น ฟังจนชินหู ใครๆ สมัยนั้นก็ได้ยินเป็นปรกติ ส่วนเรื่องให้ตั้งความปรารถนาไปอยู่ชั้นพรหมนี่ ไม่คุ้นเลยจริงๆ แล้วหลวงปู่จะไปสอนขัดแย้งกันได้อย่างไร ในเมื่อหลวงปู่มุ่งเน้นให้พวกเราเพียรปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ให้เร็วที่สุด ดังที่ว่า “เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ”
“พอ” (๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓)