ใช่หลวงปู่ดู่หรือ?

ในชีวิตคนเรา มีตัวอย่างมากมายที่คนเราบางครั้งทำด้วยเจตนาที่ดี แต่ทว่าขาดปัญญา ขาดความรอบคอบ ผลที่ออกมาจึงมีข้อบกพร่องหรือเสียหาย

อย่างเช่นการเผยแพร่คำครูบาอาจารย์ดังภาพที่เห็นด้านล่างนี้ ซึ่งเห็นเผยแพร่มาหลายปีแล้ว ครั้งแรกที่ได้เห็น ผมได้สอบถามไปที่ต้นแหล่งที่มีการเผยแพร่ ว่าเอามาจากไหน (เพราะคนเผยแพร่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เกิดไม่ทันท่าน) จึงได้ทราบว่าเป็นเสียงแว่วมาขณะที่เขานั่งหลับตาภาวนา!

พอทราบเช่นนี้ก็รู้สึกวิตกว่า หากใครๆ อ้างคำพูดหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่แว่วมาในตอนนั่งหลับตา และเผยแพร่ออกไปให้คนทั่วไปรับทราบเสมือนหนึ่งเป็นคำพูดที่ออกจากปากครูบาอาจารย์ ผลระยะยาวจะเป็นอย่างไร คำสอนและปฏิปทาของครูบาอาจารย์จะคลาดเคลื่อนไปอย่างไร

แม้จะมีเจตนาที่ดี แต่ก็อาจมีส่วนทำให้คำสอนและปฏิปทาครูบาอาจารบ์คลาดเคลื่อน สุดท้ายผู้ที่เสียโอกาสก็คือผู้รับสารเหล่านี้โดยความไม่รู้และไม่อาจแยกแยะได้

ทำไมเมื่อผมเห็นข้อความนี้จึงรู้สึกทะแม่งๆ ถึงกับต้องขวนขวายสอบถามให้ทราบที่มาที่ไป นั่นก็เพราะว่าในคำอ้างคำพูดหลวงปู่ที่พากันเผยแพร่นั่นมีความ “ไม่ใช่” หลวงปู่ ซึ่งอันนี้ แม้เราจะมิได้นั่งเฝ้าหลวงปู่อยู่ ๒๔ ชั่วโมง ไม่ได้ฟังคำหลวงปู่ที่พูดกับใครๆ ทั้งหมด แต่จากการที่เรามากราบฟังธรรมท่านบ่อยๆ ก็ย่อมสังเกตได้ถึง “ความเป็นท่าน”

จุดที่ไม่ใช่ท่านคืออะไร

๑. หลวงปู่ไม่ใช่นักพยากรณ์ และไม่ดึงดูดลูกศิษย์ด้วยการอ้างความสัมพันธ์ในอดีตชาติ ว่าเคยเป็นศิษย์ เป็นลูก เป็นหลาน ฯลฯ ท่านเพียงกล่าวเป็นกลางๆ ในทำนองว่าหากไม่เคยเจอกันมาก่อน ก็ย่อมจะมาไม่ถึงวัดสะแก อะไรประมาณนี้ และท่านก็ไม่เคยเรียกร้องให้ใครๆ มาศรัทธาท่าน นับถือท่าน ท่านมีแต่สอนให้เราศรัทธาให้มั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 

๒. หลวงปู่ไม่ใช่ผู้อวดรู้ ตรงกันข้าม ท่านเป็นพระที่ถ่อมตน เพราะฉะนั้น คำว่า “หลักธรรมคำสอนของข้า” นี้ จึงไม่ใช่คำที่ใครๆ เคยได้ยิน แต่ที่ได้ยินจนคุ้นหูคือ “ธรรมของพระพุทธเจ้า” แม้คำสอนของท่านก็จะไม่มีคำว่า “หลัก” เพราะค่อนไปทางยกตน ซึ่งไม่ใช่ปฏิปทาของหลวงปู่

๓. ข้อความตอนท้าย มีการปรุงแต่งคำพูดเพิ่มเข้าไปใหม่ จากเดิม ท่านพูดไว้เพียงว่า “แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็ยังคิดถึงแก” ของเดิมมีเพียงเท่านี้ ซึ่งท่านพูดไว้กับคุณเมธา อดีตประธานชมรมพุทธฯ มธ. นี่ไปยกคำนั้นมา แล้วยังไปเติมอีกว่า “ข้าอยู่ใกล้ๆ แก จำไว้”

โดยรวม คำหลวงปู่ที่เผยแพร่นี้ เรียกว่า “โดนใจ” เสริมกำลังใจได้ดี จึงมีการเผยแพร่ต่ออย่างมาก แต่ถึงกระนั้น ก็มีการปรุงแต่งคำของตนปนไปกับคำหลวงปู่ ซึ่งมีความไม่ใช่หลวงปู่อยู่ในนั้น อันเป็นที่มาของการต้องชี้แจงในวันนี้ เพื่อจะรักษาความบริสุทธิ์ในปฏิปทาและคำสอนครูบาอาจารย์ตามหน้าที่ของศิษย์ตัวน้อยๆ คนหนึ่งจะพึงทำตามกำลังสติปัญญาความสามารถของตน

“พอ”

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments