
หลวงปู่ดู่ นอกจากท่านจะอบรมสั่งสอนให้พวกเราใฝ่ดีแล้ว องค์ท่านเอง รวมทั้งคำพูดคำเตือนต่างๆ ก็ล้วนโน้มนำไปในทางให้เราใฝ่ดี เช่นคำเตือนสติที่ท่านให้พวกเราตระหนักว่า “ถ้าไม่เอา (ปฏิบัติ) เป็นเถ้าเสียดีกว่า”
หลวงปู่ให้เราพัฒนากายใจของเราให้มีศีล พัฒนาจิตให้มีสมาธิและปัญญา ท่านเริ่มตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากกุฏิ ท่านก็ว่า “เออ แก่ เจ็บ ตาย เน้อ” พอสบตาท่าน ท่านก็มักส่งสายตาเป็นที่รู้กันว่าให้ไปหาที่นั่งหลับตาภาวนา อย่ามามัวคุยกัน
ใครมาสนทนาเรื่องสัพเพเหระ ท่านก็รับฟังแล้วพยายามวกเข้าหาธรรม ส่วนใครที่มาเล่าหรือซักถามเรื่องการปฏิบัติส่วนตน อันนี้ ท่านจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษทีเดียว
คนที่ยังไม่มั่นใจในการรักษาศีล หรือยังไม่เคยทำสมาธิ ท่านก็สอนให้เริ่มรักษาศีลและทำสมาธิภาวนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ชนิดที่เขารู้สึกสบายใจว่าไม่เหลือวิสัยที่จะทำ และเพื่อให้มีกำลังใจและมีสัจจะในการปฏิบัติ บางทีท่านก็พูดตบท้ายว่าให้เราปฏิบัติเพื่อท่านนะ โห ใครจะกล้าไม่ปฏิบัติ ทั้งๆ ที่ทำไปก็เพื่อตัวเราเองทั้งนั้น
แต่ถ้ามาเล่าความขี้เกียจของตัวเองให้ท่านฟัง ท่านก็จะว่า “บ๊ะ ขี้เกียจก็หมดกัน”
หลวงปู่ดู่ไม่เพียงเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราใฝ่ดีในระยะที่ท่านยังมีชีวิต แม้ท่านละสังขารไปแล้ว สาธุชนจำนวนไม่น้อยก็เกิดแรงบันดาลใจจากการได้รู้จักหรือได้มากราบหุ่นขี้ผึ้งท่านที่วัดสะแก ดังเช่นผู้บริหารธนาคารท่านหนึ่งซึ่งมาวัดสะแกตามคำชวนของเพื่อน พอมาคุกเข่าหน้ารูปเหมือนหลวงปู่ อยู่ๆ เขาก็เกิดแรงบันดาลใจ อธิษฐานเลิกเหล้า ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าทั้งภรรยาและลูกๆ ได้ขอร้องเขาให้เลิก แต่ก็ไม่เคยเป็นผล มีแต่จะดื่มหนักขึ้นในช่วงใกล้เกษียณ และเขาก็เลิกเหล้าชนิดหักดิบได้สำเร็จ ยังความสุขใจเป็นอันมากให้กับคนในครอบครัว
พวกเราในที่นี้ ใครเคยได้รับแรงบันดาลใจจากหลวงปู่ให้เป็นผู้ใฝ่ดีบ้าง ยกมือขึ้น
“พอ” (๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒)