ในรูปคือตัวอย่างพระเหนือพรหมที่หลวงปู่มอบให้กับศิษย์อาวุโสท่านหนึ่ง (ปัจจุบันท่านอายุกว่า ๗๐ ปีแล้ว) เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติสมาธิภาวนาให้ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
หลวงปู่แจกพระนี้มากก็ในช่วงก่อนปี พ.ศ. ๒๕๒๕ หลังจากนั้น ผู้คนมาวัดสะแกกันมากเข้าๆ หลวงปู่จึงได้แจกน้อยลง จนไม่ได้แจกอีก เพราะท่านพิจารณาในเรื่องลาภไม่เสมอหน้า เดี๋ยวคนนั้นได้ คนนี้ไม่ได้ จะเกิดจิตตก
การที่หลวงปู่มอบพระให้นั้นก็เพื่อเป็นกำลังใจ หาใช่การรับรองคุณธรรมแต่อย่างใด เพราะไม่ใช่เรื่องที่ครูบาอาจารย์จะไปทำเช่นนั้น อีกอย่างลูกศิษย์ก็ล้วนอยู่ในช่วงล้มลุกคลุกคลาน กำลังใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนอกจากพระเหนือพรหม บางทีท่านก็ให้พระพิมพ์อื่นๆ แก่ลูกศิษย์ ตามโอกาสที่เห็นสมควรด้วย
ที่กล้ายืนยันว่าท่านให้เพื่อเป็นกำลังใจ หาใช่รับรองคุณธรรมก็เพราะเคยได้ทราบเรื่องราวของผู้ที่เคยได้รับพระจากหลวงปู่ มาภายหลัง ห่างเหินการปฏิบัติ ถึงขนาดไปหมกมุ่นกับการทรงเจ้าเข้าผีก็มี ไปกินเหล้าเมายาโกหกหลอกเงินเขาก็มี เอาพระหลวงปู่ที่มีไปขายกินก็มี เพียงแต่อย่างน้อยในช่วงเวลาหนึ่งของเขา เขาได้มีความอุตสาหะในการปฏิบัติ กระทั่งหลวงปู่มอบพระให้เป็นกำลังใจให้เพียรปฏิบัติต่อไป ส่วนว่าเขาจะรักษาความดีที่มีอยู่เดิม หริอเจริญความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป รวมทั้งปิดกั้นและชำระสิ่งไม่ดีออกจากใจได้ต่อเนื่องและมากน้อยเพียงใดก็สุดแต่ศรัทธา สติ และปัญญาของตัวเขาเอง
ไม่เพียงหลวงปู่ดู่ แม้แต่หลวงตามหาบัวท่านก็มักให้กำลังใจศิษย์ เพียงแต่ต่างรูปแบบ หลวงตาท่านให้กำลังใจศิษย์ด้วยการกล่าวชม แต่ภายหลังท่านก็ปรารภว่า ไม่รู้เป็นอย่างไร ท่านชมใครเป็นเสียคนทุกที บางทีชมว่าเป็นเพชรน้ำหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้จะเป็นเพชรน้ำสอง น้ำสาม แล้วก็เละเทะเสียแล้ว
เวลาครูบาอาจารย์ชม หรือมอบพระให้เป็นกำลังใจ ก็เป็นส่วนของครูบาอาจารย์ แต่ในส่วนของศิษย์นั้นก็ต้องรักษาความดีไว้ด้วยดีตลอดไปให้สมกับความเมตตาที่ครูบาอาจารย์มอบให้
เล่าไว้เป็นเกร็ดเรื่องราวปฏิปทาหลวงปู่ดู่
“พอ” (๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐)
(ในรูป กล่องบรรจุพระนั้น เจ้าของหามาใส่ภายหลัง)