พระพุทธเจ้า รวมทั้งหลวงปู่ครูบาอาจารย์ ท่านประทานสวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติให้เราไม่ได้ ท่านว่าท่านเป็นเพียงผู้ชี้ทาง ว่าหากจะไปสวรรค์ก็ต้องเจริญทาน เจริญศีล มีหิริ โอตตัปปะ ประจำใจ
แต่ท่านก็สอนว่าไม่ว่าสุขในโลกมนุษย์ หรือแม้แต่สวรรค์และพรหมโลกล้วนไม่เที่ยง หมดอำนาจบุญ ปฏิบัติพลาดไปก็ไม่พ้นนรก การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไป
ดังนั้น ท่านจึงแนะนำให้มุ่งสิ่งที่สูงกว่าสวรรค์และพรหม ให้พ้นการเวียนว่ายตายเกิดในโลกทั้งสาม นั่นก็คือ พระนิพพาน ซึ่งก็ต้องเจริญอริยมรรคมีองค์แปด หรือไตรสิกขา ให้เป็นผู้ใกล้ฝั่งพระนิพพานยิ่งๆ ขึ้นไป
การคิดถึงพระพุทธเจ้าและหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และปฏิบัติตรงต่อพุทธธรรม จะช่วยตอกย้ำเป้าหมายคือการปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด มิใช่มุ่งสวรรค์สมบัติ หรือพรหมสมบัติ
นอกจากนี้ การระลึกถึงท่านยังช่วยให้เกิดพลังใจในการก้าวเดินทางธรรม เพราะได้อาศัยท่านเป็นผู้นำและประจักษ์พยานว่ามรรคผลมีจริง ผู้สิ้นกิเลสมีจริง การปฏิบัติมิไร้ผล
สำหรับหลวงปู่ดู่ ท่านยังให้กำลังใจอีกว่า “พระท่านคอยจะช่วยเหลืออยู่” ขอเพียงเรามีความอุตสาหะพากเพียรในการปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติอย่างไฟไหม้ฟาง ทำๆ ทิ้งๆ หรือมัวประกอบพิธีกรรมหรือสวดอ้อนวอนหวังผลดลบันดาลอย่างลัทธิเทวนิยม โดยไม่ปรารภความเพียรในการเจริญไตรสิกขาตามแบบอย่างพุทธธรรม
“พอ” (๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑)